
กำเนิด“สามล้อถีบ”ที่“เลื่อน พงษ์โสภณ”ได้ไอเดียจากไมอามี่
รถสามล้อต้นแบบของนายเลื่อน ที่นั่งผู้โดยสารเป็นเก้าอี้ไม้ (ภาพจาก อเนก นาวิกมูล)
ยืนยันอีกครั้งว่านี่ไม่ใช่ข่าวขายหัว ที่มาของรถสามล้อบ้านเราที่นายเลื่อน พงษ์โสภณ ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นนั้นได้แนวคิดมาจากเมืองไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกาจริงๆ รถสามล้อที่ว่านั้นไม่ใช่สามล้อติดเครื่องยนต์ หรือ “ตุ๊กตุ๊ก” ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน แต่เป็น “สามล้อถีบ” ที่ต้องอาศัยแรงงานเท้าของผู้ขับขี่ล้วนๆ
นายเลื่อน พงษ์โสภณ (ภาพจากอเนก นาวิกมูล)
ลำดับแรกเรามารู้จักผู้ประดิษฐ์กันก่อน นายเลื่อน พงษ์โสภณ (พ.ศ. 2441-2519) เป็นบุตรของขุนเชี่ยวหัสดิน (เถา) กับนางแฉ่ง เจ้าของกิจการโรงเลื่อย, ร้านขายเครื่องเรือน และเครื่องประดับบ้าน ขณะที่นายเลื่อนใกล้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้นทางยุโรป นายเลื่อนได้สมัครเป็นทหารอาสาไปรบที่ฝรั่งเศส ซึ่งทำให้มีโอกาสเรียนวิชาเครื่องยนต์
ประสบการณ์และความรู้ที่ได้จากการไปร่วมรบครั้งนั้น และการไปศึกษาการบินที่ สหรัฐอเมริกาในภายหลัง ประกอบกับนิสัยของนายเลื่อนเองที่เป็นคนหัวก้าวหน้า กล้าคิดกล้าทำ และเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ นายเลื่อนจึงเป็นผู้ “ริเริ่ม” สิ่งประดิษฐ์, กิจการ ฯลฯ หลายอย่างที่ยังไม่เคยมีมาก่อนขึ้นในเมืองไทย เช่น โรงเรียนสอนวิชาเครื่องยนต์, สามล้อ ฯลฯ
สำหรับการคิดประดิษฐ์ “สามล้อ” นั้น ประมาณ พ.ศ. 2475 นายเลื่อนทำงานอยู่ที่บริษัท เดินอากาศไทย ที่นครราชสีมาได้เห็น คนลากรถบรรทุกเป็นการใช้แรงงานคนที่น่าสังเวช จึงคิดว่าควรทำให้เกิดความสะดวกขึ้นได้อย่างไร แต่จะให้ติดเครื่องยนต์ในเวลานั้นคงเป็นเรื่องยาก แนวคิดเริมต้นนั้นสามล้อถีบนี้ ศ.แถบ นีละนิธิ กล่าวว่านายเลื่อนบอกท่านว่า “คิดมาจากรถสามล้อที่ใช้ในเมืองไมอามี่ ในสหรัฐอเมริกาสมัยนั้น”
แม้จะคิดได้ แต่กว่าจะจดทะเบียนเพื่อใช้งานจริงได้ก็ไม่ใช่ง่าย
เริ่มแรกนั้นนายเลื่อนออกแบบทำเป็น “รถข้างหน้า 2 ล้อ พ่วงท้าย 2 ล้อ แบบอินโดนีเซีย” แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียน จึงแก้เป็น “ข้างหน้า 2 ล้อ ข้างหลังล้อเดียว” ก็ยังไม่ผ่าน
ครั้งสุดท้ายก็แก้เป็น “ข้างหน้าล้อเดียว ข้างหลัง 2 ล้อ” เจ้าหน้าที่ให้ไปขอกับหลวงอดุลเดชจรัส อธิบดีกรมตำรวจ นายเลื่อนนำรถสามล้อไปสาธิตให้หลวงอดุลยฯ นั่งจากระทรวงถึงเสาชิงช้า (ไป-กลับ) ซึ่งก็ได้อนุญาตให้จดทะเบียน
การจดทะเบียนว่ายากแล้ว การทำตลาดยิ่งยากกว่า
เมื่อรถสามล้อจดทะเบียนได้ นายเลื่อนก็กลับไปโคราช นำรถสามล้อรุ่นแรก 3 คันที่จดทะเบียนให้คนเช่า แต่ไม่มีใครเช่า นายเลื่อนลางานมาถีบรถสามล้อโชว์ และเชิญชวนให้คนที่ผ่านไปมาทดลองนั่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้านั่ง สุดท้ายนายเลื่อนจึงจ้างเด็กที่วิ่งตามดูอยู่นั้นนั่งรถสามล้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้คน ซึ่งก็นับว่าได้ผลเริ่มมีคนมาเช่ารถสามล้อถีบ
ในฐานะผู้คิดค้นประดิษฐกรรม นายเลื่อนคงจะร่ำรวยจากกิจการสามล้อถีบเป็นแน่ แต่ความจริงคือ บรรดาคนเช่าหัวใสเอาสามล้อต้นแบบของนายเลื่อนไปก๊อปปี้ผลิต จนกระทั่งในกรุงเทพฯ ก็ยังมีสามล้อเกลื่อนเมือง
ข้อมูลจาก
อเนก นาวิกมูล, พ่อค้าไทยยุค 2480 เล่ม 1, สำนักพิมพ์แสงดาว พิมพ์ครั้งแรก 2557
เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563
Source: https://www.silpa-mag.com/history/article_47431
The post กำเนิด“สามล้อถีบ”ที่“เลื่อน พงษ์โสภณ”ได้ไอเดียจากไมอามี่ appeared first on Thailand News.
More Stories
“ระบบการศึกษา” เครื่องมือผนวก “ล้านนา” ให้กลายเป็นไทยในสมัยรัชกาลที่ 6
เด็กนักเรียนโรงเรียนประชาบาลเมืองเชียงแสน พ.ศ. 2466 (ภาพจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติ) ต้นพุทธศตวรรษที่ 25 ในสยามกำเนิดรัฐแบบใหม่ที่บริหารงานแบบรวมศูนย์ ทำให้จำเป็นต้องสลายอำนาจท้องถิ่นเพื่อดึงทรัพยากรและผู้คนมาเป็นของรัฐบาลส่วนกลาง สำหรับกรณีของล้านนา สยามเลือกใช้วิธีของเข้าอาณานิคมผสมผสานกับธรรมเนียมของรัฐจารีต หากยังขาดจิตสำนึกร่วมชาติ รัชกาลที่ 6 จึงทรงใช้ “การศึกษา” เป็นเครื่องมือในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ ผศ.ดร. เนื้ออ่อน ขรัวทองเขียว ได้ค้นคว้าและเรียบเรียงไว้...
โรงเรียนทหารบกโอกาสของ “สามัญชน” และสถานที่สร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
“โรงเรียนทหารสราญรมย์” ที่ภายหลังเปลี่ยนเป็น “โรงเรียนทหารบก” (ภาพจากหนังสือ 2475:เส้นทางคนแพ้) แม้จะมีการวางรากฐานให้กับการผลิตนายทหารตามหลักสูตรสมัยใหม่ด้วยการจัดตั้ง “โรงเรียนทหารสราญรมย์” มาตั้งแต่ พ.ศ. 2430 แต่การรับเข้าเป็น “คะเด็ด” ก็จำกัดเฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์ และบุตรนายทหารชั้นสัญญาบัตรเท่านั้น แต่เนื่องจากความจำเป็นที่ต้องขยายกิจการทหารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมืองโดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ “ร.ศ.112” ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2437 ที่เป็นการคุกคามจากฝรั่งเศส และลัทธิล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตก ทางราชการจึงต้องการนายทหารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากให้ได้ส่วนสัมพันธ์กับขนาดของกองทัพที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว...
ทหารญี่ปุ่นตบหน้าพระไทย สู่วิกฤตการณ์บ้านโป่ง 18 ธ.ค. 2485
ภาพประกอบเนื้อหา – ทหารญี่ปุ่นเรียงแถวปลดอาวุธต่อหน้านายทหารโซเวียต ช่วงกองทัพรัสเซียเข้าปลดปล่อยแมนจูเรียจากญี่ปุ่น ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพถ่ายเมื่อ ส.ค. 1945 (ภาพจาก AFP) เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2485 พระเพิ่ม สิริพิบูล (เอกสารบางรายการระบุว่าเป็นเณร) จากวัดห้วยกระบอก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม...
โอรสแห่งสวรรค์ ไยจึงมีชีวิตที่แสนสั้น? เมื่อจักพรรดิ “จีน” ดื่มยาอายุวัฒนะ แต่ยิ่งตายไว!
ภาพประกอบเนื้อหา – ภาพเขียน เง็กเซียนฮ่องเต้ (Jade Emperor) ในจินตนาการ ภาพจาก Daoist deity: Jade Emperor. Boston: Museum of Fine Arts สิทธิใช้งาน public domain...
ปริศนาเจ้าแม่วัดดุสิต ต้นราชวงศ์จักรี “เจ้า” หรือ “สามัญชน”???
พระบรมรูปพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ประดิษฐานภายในปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระราชวงศ์จักรีเป็นพระราชวงศ์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ ทั้งพระราชพงศาวดารและตำราประวัติศาสตร์ มีให้ศึกษาประวัติโดยละเอียดจำนวนมาก โดยเฉพาะพระบรมเดชานุภาพ พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ แต่หากสังเกตอย่างดีก็จะพบว่าในบรรดาประวัติพระราชวงศ์หรือพระราชประวัติพระมหากษัตริย์ เรายังขาดแคลนข้อมูลที่กล่าวถึงบางช่วงบางตอน เช่นในภาคปฐมวัยแห่งพระมหากษัตริย์บางพระองค์ เท่ากับว่าเรายังขาดความรู้เรื่อง “วัยเด็ก” ของพระมหากษัตริย์ไทย โดยเฉพาะพระองค์ก่อนรัชกาลที่ ๕ ขึ้นไป ทั้งนี้เป็นเพราะการจดพงศาวดารในยุคก่อนได้เว้นที่จะกล่าวถึงพระราชประวัติก่อนเสวยราชย์ จะด้วยธรรมเนียมหรือด้วยเหตุไม่บังควรอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ทำให้ประวัติศาสตร์ในช่วงดังกล่าวเป็นแต่เพียงภาพรางๆ...
ภาพเขียนสีที่เพิงผา “ตอแล” ภูเขายะลา ถึงภาพใน “ถ้ำศิลปะ” กับข้อมูลเมื่อแรกเริ่มค้นพบ
(ซ้าย) ภาพมุมสูงเมืองยะลา เมื่อราวปี พ.ศ. 2547 (ขวาบน-ล่าง) ภาพเขียนสีที่เพิ่งผา “ตอแล” จ.ยะลา (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม เม.ย. 2542) “ตอแล” หรือ “ตอหลัง” เป็นเพิงผาหนึ่งของภูเขายะลา อยู่ในเขตหมู่ 2 บ้านกูเบ ตําบลยะลา อําเภอเมือง จังหวัดยะลา...
ประวัติศาสตร์การนั่งจากกรุงศรีฯ-กรุงเทพฯ คนไทยนั่งกันท่าไหน
สตรีชั้นสูงนั่งบนตั่ง ขณะที่บริวารนั่งบนพื้น ถ่ายราวยุค 2410 (ANP-0002-123 ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ) “การนั่ง” เป็นหนึ่งในอริยาบถสุดเบสิกมนุษย์เราในปัจจุบันคุ้นเคยกันจนคิดว่าเป็นกิริยาอาการแสนสามัญธรรมดาแต่นั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนสมัยอยุธยาคิด เมื่อ 300 กว่าปีที่แล้ว ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ ราชทูตจากราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสเดินทางมาถึงอยุธยา ราว 3 เดือนที่พำนักอยู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยเขาได้บันทึกเรื่องราวหลายแง่มุมที่ประสบพบเจอในสยามอย่างละเอียด บันทึกเล่มนี้ได้กลายเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์อันประมินค่ามิได้กาลต่อมา...
เมืองปากสิงห์ (สิงห์ สิงหเสนา) วีรบุรุษเมืองร้อยเอ็ด ผู้ร่วมปราบฮ่อ และ ร.ศ. 112
อนุสาวรีย์สิงห์เมืองปาก (สิงห์ สิงหสนา) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปู่เมืองปาก” ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดจักรวาลภูมิพินิจ ตำบลหนองหมื่นถ่าน อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด (ภาพสิมวัดจักรวาลภูมิพินิจ จาก www.qrcode.fineart.go.th) สิงห์ สิงหเสนา มีนามสกุลคล้ายๆ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แต่ทั้งสองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดกัน “สิงห์ สิงหเสนา” ผู้นี้เป็นใคร ผู้ใช้นามปากกาว่า เสมา ไชยกำแหง จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เขียนอธิบายเรื่องนี้ไว้ใน “สิงห์เมืองปาก...
มอง “พม่า” ผ่านสายตา “สำหรุดปาน” ชาวสงขลาที่เดินทางไปแสวงบุญเมื่อร้อยปีก่อน
เจดีย์ชเวดากอง ภาพถ่ายราวปี คงศ. 1895-1915 นิราศพระธาตุเมืองย่างกุ้ง สะท้อนให้เห็นโลกทรรศน์ของสำหรุดปานที่ทับซ้อนกันสองโลก โลกด้านหนึ่งคือโลกในระดับโลกิยะ การมองโลกเชิงประจักษ์ ดังจะเห็นได้จากการที่สำหรุดปานให้ความสำคัญกับการบรรยายรายละเอียดการเดินทาง สภาพบ้านเมืองและสิ่งต่าง ๆ ที่ตนได้ประสบพบเห็นด้วยตนเอง โลกอีกด้านหนึ่งที่สำหรุดปานให้ความสำคัญสูงกว่าคือโลกในระดับโลกุตระ ดังจะเห็นได้จากความมุ่งมั่นตั้งใจในการเดินทางจาริกแสวงบุญนมัสการพระบรมธาตุยังดินแดนพม่า และยิ่งไปกว่านั้นได้แต่งหนังสือสวดนี้ไว้เพื่อให้นำไปใช้อ่านและสวดให้ญาติพี่น้องมิตรสหายที่ไม่มีโอกาสได้เดินทางมานมัสการพระธาตุด้วยตนเองได้ร่วมฟังและตั้งจิตอนุโมทนาบุญร่วมกัน พม่าในวิถีโลกย์ ดินแดนพม่าเมื่อครั้งสำหรุดปานเดินทางไปนั้นเป็นช่วงเวลาที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษและสูญสิ้นราชวงศ์พม่าแล้ว พระเจ้าธีบอกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์คองบองของพม่าถูกอังกฤษถอดจากราชบัลลังก์และนำตัวไปคุมขังไว้ที่เมืองรัตนคีรี บริติชอินเดีย สภาพการณ์ความเป็นไปของพม่าเช่นนี้ไม่ได้เกินเลยความรับรู้ของสำหรุดปาน สันนิษฐานได้ว่าการที่เขาเป็นคนสะเดา...
ตำนานคู่ปรับวงการมวย โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ vs สุวรรณ นิวาสะวัต
(ซ้าย) โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ, (ขวา) สุวรรณ นิวาสะวัต (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมีนาคม 2564) โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ นักมวยดังจากบ้านท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าของฉายา “ยอดมวยเตะ” เป็นนักชกที่มีชื่อเสียงรุ่นเดียวกับ สุวรรณ นิวาสะวัต นักมวยพระนครจากสำนักสวนกุหลาบ เจ้าของฉายา “เอลโมมีฤทธิ์” (เอลโมเป็นชื่อดาราพระเอกภาพยนตร์สมัยนั้น...
ปัญหาน้ำมันแพงปี 2522 ที่มาของเป็น “เพลงน้ำมันแพง”
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ (ภาพจาก ฯพณฯ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ หนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์) ที่ผ่านมาไทยต้องเผชิญกับปัญหา “น้ำมันแพง” หลายครั้ง เช่น พ.ศ. 2516 รัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร,...
“ภูเขาทอง” กองอิฐใหญ่ที่ถูกทิ้งร้าง มูลเหตุการขุด “คลองผดุงกรุงเกษม” ป้องกันพระนคร
ภูเขาทอง วัดสระเกศ (ภาพจาก หนังสือ ประชุมภาพประวัติศาสตร์ แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชดำริให้สร้าง “ภูเขาทอง” ที่วัดสระเกศ ให้สร้างเป็นพระปรางค์ขนาดใหญ่อย่างภูเขาทองที่อยุธยา แต่เนื่องด้วยชั้นดินอ่อนตัว รับน้ำหนักจำนวนมหาศาลของพระปรางค์ไม่ได้ กระทั่งทรุดลง จึงหยุดก่อสร้างค้างอยู่เพียงฐาน ถูกปล่อยให้รกร้าง กลายเป็นกองอิฐขนาดใหญ่นอกกำแพงพระนคร ตำแหน่งที่ตั้งของภูเขาทองนั้น นับเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของพระนคร เพราะตั้งอยู่ริมคลองมหานาคเชื่อมต่อกับคลองรอบกรุงและคลองหลอด (คลองหลอดวัดราชนัดดาฯ)...