
เปิดสมุดข่อย ส่องตำราแมวไทย เลี้ยงไว้ท่านว่าเป็นมงคล
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่หลายวัฒนธรรมทั่วโลก ในดินแดนประเทศไทยก็มีวัฒนธรรมและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับแมวมากมาย นอกจากนี้ยังพบแมวปรากฏในวรรณคดีอย่างเรื่องยอพระกลิ่น และคำสุภาษิตต่าง ๆ ก็ปรากฏให้เห็น
แมวไทยขึ้นชื่อว่ามีลักษณะดีเด่นหลายประการ มีรูปร่างสง่างาม สีสวย และขนละเอียด ดังนั้น ใน พ.ศ. 2427 นายโอเวน กูลด์ และนายไซริล ยีทส์ ได้นำแมวไทยกลับไปอังกฤษคู่หนึ่ง และนำแมวไปประกวดในระดับนานาชาติ นั่นทำให้ชื่อเสียงของแมวไทยเริ่มเป็นที่รู้จักและโด่งดังมาตั้งแต่นั้น
แมวไทยตามตำราดูลักษณะแมว ได้กล่าวถึงแมวไทยที่มีลักษณะดีและให้คุณนั้นมี 17 ชนิด ได้แก่ นิลรัตน์, วิลาศ, ศุภลักษณ์หรือทองแดง, เก้าแต้ม, มาเลศหรือดอกเลา, แซมเศวต, รัตนกัมพล, วิเชียรมาส, นิลจักร, มุลิลา, กรอบแว่นหรืออานม้า, ปัตเศวตหรือปัดตลอด, กระจอก, สิงหเสพย์, การะเวก, จตุบท และ โกญจา
ยกตัวอย่างเช่น ศุภลักษณ์หรือทองแดง ตามตำราท่านว่า “หนึ่งนามทองแดงแสงใส เล็บลิ้นฟันใน นั้นทองแดงดั่งแกล้งย้อมทา ใครเลี้ยงจะได้ยศฐา ยิ่งพ้นพรรณา เป็นที่อำมาตย์มนตรี” นอกจากนี้ แมวทั้ง 17 ชนิดดังกล่าว ตามตำราท่านว่าอย่าเอาไปทิ้ง ให้ฝังไว้นานเป็นแรมปี แล้วเก็บกระดูกใส่หม้อรักษาไว้ จะให้คุณ ดังความว่า “อัฐิแมวนั้นมี คุณยิ่ง นักแล อาจประหารภัยนั้น กอบเกื้อพูนผล”
นอกจากตำรานี้แล้ว ยังมีสมุดข่อย “ตำราแมว” ซึ่งเก็บรักษาที่หอสมุดแห่งชาติอังกฤษ (The British Library) ได้กล่าวถึงคุณลักษณะของแมวไทยโบราณ และความมงคลในด้านต่าง ๆ หากเลี้ยงแมวชนิดนั้น ๆ ไว้ ยกตัวอย่างเช่น
“วิลารีที่สองประกอบยศ ดำมดถีถวนเปนนักหนา ทั่วทั้งษาร่ภางกายา ทังลบลินพันตานั้นดำดี นามชื่อว่านิลรัด ใม่ของขัดปลอมแปลกแทรกสี ใครยเลียงไว้จักใดเปนเสนีเปนมลตรียผูใหญ่ไชยชาน ประกอบด้วยย่ดปราก่ฏยิ่ง ทุกสิ่งษาร่พันจหาวหาร ทั่งอายูจ่ยืนยาวนาน จ่สำร้าญรวยรืนชืนใจย”
“วิลารีที่สามนั้นงามเลิด ดูประเสีรฏดังสูวัรรอันผ่องใส ศรีแสงแดงทั่งทังงตังไปย ทังเลบตานั้นใสยประกอบกัน ดูงามลำเลีดประเสีรฏสี เลียงไวยใหดีอยาตีรัน จ่เกิดพ่ส่การทุกสิ่งอัน ษาร่พัรรพูนสุกทุกเวลา”
“วีลารียที่เจ็ดต้องสักข่นา พืนดังมึกทาเปนแสงใสย ที่ท่าวข้าวผ่องย่องไญย จ่มูกคางคางใสยวิไลยดี สองเอวนั้นดางอยู่ตร่งกัน วีลานั้นดูงามประเสีรฏสี จงเรงรักษาใหจ่งดี จ่เกีดลาพมากมีอยู่กายกอง”
“วีลารียทีสิบนั้นพืนดำ สีท่าวข้าวขำดูอำไภ จมูกหางนั้นดางเปนสางไปย เนตรทังสองใสยมาไสยดี แม้วนี้ละเลีดประเสีรฏนัก ดูงานหน้ารักประเสีรฏศรี ไครยเลียงไว้ยจักได้เปนม่ลตรีย จเปร้มปรียิ่งยดปราก่ฏไปย”
“ทัษ่เอกาวีลารีย พืนนั้นดำดีเปนแสงใสย ท้าวข้าวผ่องล่องใญย จ่มูกหางนั้นใสยประจ่บกัน หูตาค่างข้าวทังร้าวอ่ก เมื่อผันผ่กห่กเหีนดูเฉีดฉัน เมื่พิษช่มเหนสมทุกสิ่งอัน มางามครันยิ่งกว่าวีลารีย ต่อกูสนของไครยจึ่งจ่ใดเลียง มากล่อมเกลียงพีทักจำเรีญสี เช้นนี้ไม่มีไครยเปรียบใด้ย”
ตำราแมวเหล่านี้นับว่าเป็นเอกสารที่มีคุณค่าอย่างมาก เพราะทำให้เห็นถึงลักษณะของแมวไทยโบราณ ทำให้เห็นถึงคติความเชื่อการเลี้ยงแมวของไทยในสมัยก่อน ทั้งนี้สามารถชมสมุดข่อยตำราแมวไทยนี้ได้ที่เว็บไซต์ของหอสมุดแห่งชาติอังกฤษ
Source: https://www.silpa-mag.com/history/article_73047
The post เปิดสมุดข่อย ส่องตำราแมวไทย เลี้ยงไว้ท่านว่าเป็นมงคล appeared first on Thailand News.
More Stories
“เจ้าจอมพิศว์” ในร.5 สตรีชาววังคนแรกๆในสยามที่ชอบเลี้ยงสุนัขเป็นชีวิตจิตใจ
“เจ้าจอมพิศว์” อีกหนึ่งเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ที่น้อยคนจะรู้จัก นอกจากท่านจะเป็นผู้ถวายงานรับใช้ในพระราชสำนักฝ่ายในแล้ว ท่านยังเป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่ิองรักสัตว์มากคนหนึ่ง และเป็นบุคคลแรก ๆ ของไทยที่สั่งซื้อสัตว์พันธุ์แปลกใหม่เข้ามาเลี้ยงในสยาม “คุณพิศว์” เป็นธิดาของเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) และท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ (สกุลเดิมชูโต) เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2413 เมื่อครั้งอายุ 13 ปี ได้ติดตามบิดาที่เข้าไปรับราชการในพระราชสำนักเสมอ...
กำเนิดวัฒนธรรมพันปี เมื่อมนุษย์รู้จักดื่ม “ไวน์” แพร่หลายเข้าสู่ไทยเมื่อใด?
คนงานในฟาร์มสั่งถังในห้องเก็บไวน์ ระหว่างการเก็บเกี่ยวองุ่นในเมือง Champagne ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1945 (Photo by – / AFP) มนุษย์รู้จักองุ่นมานานกว่าหมื่นปีที่แล้ว นำมาใช้ประโยช์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกินผลสด ตากแห้งเป็นลูกเกด คั้นเป็นน้ำองุ่นสำหรับดื่ม กระทั่งเรียนรู้นำองุ่นมาหมักจนเกิดเป็นเหล้าองุ่นหรือ “ไวน์” ต้นกำเนิดขององุ่นย้อนไปราว 9,000...
คอคอดกระ-โครงการอมตะนิรันดร์กาลตั้งแต่สมัยพระรายณ์ที่ไม่ได้ลงมือสักที
แผนที่ต้นแบบและแผนภูมิคอคอดกระ ฉบับนายเอดลองก์ วิศวกรชาวฝรั่งเศส ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้สำรวจคอคอดกระอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2424 โครงการขุดคอคอดกระ เพื่อเชื่อมทะเลอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน เป็นหนึ่งในโครงการอมตะนิรันดร์กาล ที่มีความคิดที่จะสร้างครั้งแรกเมื่อ 300 กว่าปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินพระนารายณ์ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าได้มากกว่าการสำรวจ ที่จบลงด้วยการยุติ และล้มเลิก โครงการขุดคอคอดกระมีลำดับเหตุการณ์ดังนี้ สมัยกรุงศรีอยุธยา รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ พ.ศ....
ทำไมเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทดลองใช้ครั้งแรกสมัย ร. 5 ไม่เวิร์ค ?
รถไถ-คราดพลังไอน้ำ(ยังไม่ได้ต่อกับไถและคราด) ณ ทุ่งรังสิต สมัยรัชกาลที่ 5 พงศ. 2450 (ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ) การเปิดประเทศภายหลังการทำสนธิสัญญาเบาริ่ง ในสมัยรัชกาลที่ 4 ส่งผลให้การส่งออกสินค้าทางการเกษตรของไทยเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่การส่งออกข้าว เมื่อความต้องการมากขึ้น กระบวนการผลิตก็ต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกัน จึงเริ่มปรากฏการทดลองนำเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น เครื่องไถนา, เครื่องเกี่ยวข้าว ฯลฯ...
หลักฐานใหม่แย้งข้อมูลเก่า “เบื้องหลัง เบื้องลึก” ของสาเหตุการสร้าง พระบรมรูปทรงม้า ร.๕
รัชกาลที่ 5 เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีชักผ้าแพรคลุมเปิดพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2451 (ภาพจากสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร) ที่มา ศิลปวัฒนธรรม ฉบับตุลาคม 2547 ผู้เขียน ไกรฤกษ์ นานา เผยแพร่ วันพฤหัสที่ 11 พฤศจิกายน...
แฟชั่นไว้หนวดของไทยมาจากไหน? เมื่อโกนทิ้งก็ไม่ดี ปล่อยไว้ก็ไม่ดี
พระยาอภัยสงคราม (ภาพจากหนังสือ “ประชุมภาพประวัติศาสตร์แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” โดย กรมศิลปากร จัดพิมพ์เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘) ผู้เขียน ดำ บ้านญวน เผยแพร่ วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 หนวด เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชายที่สำคัญอย่างหนึ่งไม่แพ้มัดกล้ามเนื้อและรูปร่างอันบึกบึน เพราะการไว้หนวดของผู้ชายนั้นเป็นการเสริมความคมเข้มของใบหน้าและสร้างเสน่ห์ได้อย่างดี การมีหนวดของผู้ชายยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือเกรงขามได้อีกด้วย แต่ที่มาของการไว้หนวดในไทยมาจากไหน? ท่ามกลางกระแสแฟชั่นของผู้ชายที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานั้น...
การจัดการน้ำในเมืองโบราณของไทย ดูวิทยาการและคติเรื่องน้ำของคนในอดีต
ภาพวาดของชาวตะวันตกแสดงภาพกรุงศรีอยุธยาประมาณรัชกาลพระเจ้าปราสาททอง ในฤดูน้ำหลากที่น้ำท่วมพื้นที่โดบรอบ เหลือแต่เพียงเกาะเมือง “พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน… เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนาม ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ประเทสไทยมีฝนตกหนัก ถึงหนักมาทั่วประเทศ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาค… และฝนที่ตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือบริเวณอันดามัน ทะเลมีคลื่นลมแรงความคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง…”...
สยามสมัย ร.6 เคยมี “สมาคมลับ” ลักษณะเดียวกันกับกลุ่ม “ฟรีเมสัน”
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์สภานายก กับสมาชิกจิตลดาสโมสร ถ่ายที่สวนสราญรมย์ราว พ.ศ. 2457 (ภาพจากหนังสือ เรื่องของเจ้าพระยามหิธร. ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยามหิธร ณ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 15 พฤศจิกายน 2499) [เอื้อเฟื้อภาพโดย ธงชัย ลิขิตพรสวรรค์] ผู้เขียน...
“สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรก” : สุจิตต์ วงษ์เทศ
วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ผู้เขียน สุจิตต์ วงษ์เทศ เผยแพร่ วันพฤหัสที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 สุโขทัย เป็นรัฐขนาดเล็กรัฐหนึ่ง มีดินแดนทางทิศใต้แค่เมืองพระบาง (นครสวรรค์) เท่านั้นดินแดนใต้ลงไปอีกเป็นของรัฐอยุธยาและรัฐสุพรรณภูมิ บริเวณคาบสมุทรเป็นของรัฐมลายูปัตตานี ฉะนั้นสุโขทัยจึงไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของไทย เพราะก่อนหน้านั้นมีรัฐหลายแห่ง และร่วมสมัยสุโขทัยก็มีรัฐอื่นๆ อีกหลายแห่งที่สำคัญคือรัฐอโยธยา-ละโว้ ที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง...
คนไทยเห็น “จิงโจ้” ครั้งแรกเมื่อใด? ทำไม “แกงการู” ในไทยถึงเรียกว่า “จิงโจ้”?
ภาพจิงโจ้เกาะหัวเรือสำเภาจิตรกรรมลายรดน้ำในวัดโพธิ์ ที่มา ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ 2525 ผู้เขียน เอนก นาวิกมูล เผยแพร่ วันพฤหัสที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 แกงการู ถูกบัญญัติว่าคือจิงโจ้ ในสมัยรัชกาลที่ 5 หลักฐานเก่าสุดเท่าที่ค้นได้ส่อให้เห็นว่า ตัวแกงการู ในภาษาอังกฤษ...
ข้าวมาบุญครอง ยี่ห้อข้าวสารบรรจุถุงรายแรกที่จำหน่ายในประเทศไทย
ข้าวสารบรรจุถุงในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. 2551 (AFP PHOTO/Pornchai KITTIWONGSAKUL) ก่อนปี 2527 การซื้อข้าวสารมาบริโภคโดยทั่วไปไม่ได้ซื้อกันเป็นถุงอย่างทุกวันนี้ ครอบครัวใหญ่ หรือร้านอาหารจะซื้อข้าวครั้งละกระสอบ หรือครึ่งกระสอบ (ข้าวสาร 1 กระสอบ หนัก 100 กิโลกรัม) ครอบครัวเล็กซื้อทีละถัง...
ก่อนมีน้ำแข็งในสยาม คนโบราณทำน้ำให้เย็นอย่างไร?
ล้อมวงดื่มเหล้า จิตรกรรมฝาผนังวิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่น้ำแข็งจะเข้ามาสู่สยาม การทำให้น้ำเย็นนั้นไม่ได้ใช้วิธีซับซ้อนอะไร ชาวต่างชาติมีชื่อว่า เฟรดเดอริก อาร์เธอร์ นีล ที่เดินทางเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 3 บันทึกถึงการทำน้ำให้เย็น โดยเฉพาะจำพวกน้ำเมาอย่างแชมเปญ เขาบันทึกถึงเรื่องนี้ ขณะที่ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ วิธีทำให้น้ำเย็นนี้ ใช้วิธีเดียวกับที่ทำในอินเดีย...