ติดตามผ่านช่อง : Siammongkol Youtube Channel

พด. ชู “นายบรรจง แสนยะมูล” หมอดินอาสา คว้ารางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปี 65

พด. ชู “นายบรรจง แสนยะมูล” หมอดินอาสา คว้ารางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปี 65

กรมพัฒนาที่ดิน ชู “นายบรรจง แสนยะมูล” หมอดินอาสาดีเด่น กรมพัฒนาที่ดิน คว้ารางวัล เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ประจำปี 2565 ถือเป็นแบบอย่างในการนำแนวทางที่ได้รับจากการฝึกอบรมสู่การปฏิบัติเพื่อการพัฒนาที่ดินของตนเอง ด้วยการอนุรักษ์ พัฒนา ดูแลดินและที่ดินทางการเกษตร และความสำเร็จที่โดดเด่นในการปรับปรุงบำรุงดิน แก้ไขปัญหาเรื่องดินทราย นอกจากนี้ ยังสามารถนำความรู้ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการของกรมพัฒนาที่ดิน มาถ่ายทอดความรู้และเป็นแบบอย่างให้แก่เกษตรกรทั่วไปและชุมชนมาแล้วกว่า 10,000 ราย สร้างรายได้ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายสมปอง นิลพันธ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเปิดเผยว่า “กรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริม ยกย่อง เชิดชูเกียรติ ผลงานด้านการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของเกษตรกรให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ โดยในปี 2565 มีการคัดเลือกเกษตรกรและบุคคลทางการเกษตรดีเด่น จำนวน 16 สาขา โดยมีหลักเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ 1) ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน 2) ผลงานและความสำเร็จของผลงาน ทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงานและความยั่งยืนในอาชีพ 3) ความเป็นผู้นำและเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ 4) การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในปีนี้ ได้แก่ นายบรรจง แสนยะมูล หมอดินอาสาจากจังหวัดมหาสารคาม อายุ 50 ปี ปัจจุบัน อยู่บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 7 บ.หนองยาง ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ประกอบอาชีพเกษตรกร ประสบความสำเร็จในการนำความรู้เรื่องการปรับปรุงบำรุงดิน แก้ไขปัญหาเรื่องดินทราย ด้วยการทำสารปรับปรุงดินเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น เช่น ถ่านไบโอชาร์จากไผ่ เปลือกหอยบด แกลบดิบบด ซึ่งคุณสมบัติเด่นของปุ๋ยอินทรีย์ คือ เป็นแหล่งธาตุอาหารหลักที่ครบถ้วนต่อการเจริญเติบโตของพืช เป็นแหล่งธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริมแก่พืช มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อดินและพืช การปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่พืชเป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้ลดการสูญเสียธาตุอาหาร เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรในการทดแทนปุ๋ยเคมี เกษตรกรสามารถผลิตใช้เองได้ รวมทั้งการใช้น้ำหมักชีวภาพจากปลาและหอยเชอรี่ ซึ่งน้ำหมักชีวภาพประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เป็นธาตุที่มีความจำเป็นที่พืชต้องการในปริมาณมาก ธาตุอาหารรอง ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และกำมะถัน ธาตุอาหารเสริม ได้แก่ เหล็ก แมงกานีส ทองแดง และสังกะสี กรดอินทรีย์ พวกกรดฮิวมิก ฮอร์โมน พวกออกชิน จิบเบอร์เรลลิน และไซโตไคนิน เอนไซม์บางชนิด และจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์บางชนิด อีกทั้งการใช้ปุ๋ยพืชสด และการห่มดินด้วยใบไผ่ โดยทำติดต่อกันมาหลายปี จนพบว่าสภาพดินมีความอุดมสมบูรณ์ ร่วนซุย ดินมีความชื้น หน้าดินไม่พังทลาย มีสิ่งมีชีวิตในดินเกิดขึ้นมากมาย เช่น ไส้เดือน กิ้งกือ และสิ่งมีชีวิตในดินจะช่วยในการย่อยสลายเศษหญ้าเศษใบไผ่ ส่งผลทำให้พืชมีการเจริญเติบโต มีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่ม และเมื่อตนเองทำสำเร็จเริ่มมีการสร้างกลุ่ม มีการถ่ายทอดความรู้ให้กับกลุ่ม เพื่อผลิตสารปรับปรุงดินปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เอง เป็นการลดรายจ่ายและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสมาชิกและกลุ่มเครือข่าย

ปัจจุบัน นายบรรจง นับว่าประสบความสำเร็จในการทำการเกษตร มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ทั้งเรื่องของดิน น้ำ ระบบสาธารณะพื้นฐาน หวังเพื่อวันหนึ่งจะได้เป็นทางเลือกให้กับพี่น้องเกษตรกรในเล็งเห็นถึงการน้อมนำแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติจริงแล้วเกิดผลสัมฤทธิ์ มีอยู่มีกิน มีความมั่นคง มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีศูนย์เรียนรู้ให้เกษตรกรในชุมชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้เพื่อนำเอาความรู้ไปปรับใช้กับตัวเอง สามารถพึ่งพาตนเองได้ เกิดความยั่งยืน ด้วยความตั้งใจในสิ่งดีงามที่จะทำเพื่อคนในชุมชน จึงตั้งชื่อไร่ว่า “ไร่แสนดี” ซึ่งมีที่มาจากแนวคิดอยากทำการเกษตร และเป็นการแสดงออกถึงการให้ความเคารพ เชิดชู บูชาต่อบรรพบุรุษผู้ให้กำเนิดทั้งสองฝ่าย การมุ่งมั่นที่จะกลับไปพัฒนาบ้านเกิด ไร่แสนดี เป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดินของกรมพัฒนาที่ดิน เป็นต้นแบบ แหล่งศึกษาหาความรู้ ศึกษาดูงาน สำหรับเกษตรกรและบุคคลทั่วไป นิสิต นักศึกษา นักเรียน ที่สนใจจะไปศึกษาหาความรู้ได้เข้ามาอบรมและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการทำน้ำหมักชีวภาพ การทำปุ๋ยอินทรีย์ เป็นจำนวนมากปีละกว่า 2,000 ราย

ทั้งนี้ นางสาวเบญจพร ชาครานนท์  อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า “หมอดินอาสา นายบรรจง แสนยะมูล จะเข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานโล่รางวัลฯ ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2565 ถือเป็นความภาคภูมิใจ และนับเป็นแบบอย่างความสำเร็จให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งนอกจากนี้ กรมพัฒนาที่ดินได้ยกระดับบ้านของเกษตรกรหมอดินอาสาดีเด่น นายบรรจง แสนยะมูล เป็นต้นแบบการพัฒนาที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและได้จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ดินเพื่อให้เป็นที่ศึกษาดูงานของเกษตรทั่วไปได้อย่างยั่งยืน”
 

Credit : ข่าวประชาสัมพันธ์กรมประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร : Read More