คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ระบบประชุมทางไกลออนไลน์ (GIN Conference)
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานระบบประชุมทางไกลออนไลน์ (GIN Conference) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “ผู้ให้บริการ”ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่าน เพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้
ผู้ให้บริการได้ให้บริการ “ระบบประชุมทางไกลออนไลน์ (GIN Conference)” เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๘ กำหนดให้ สพร. ให้บริการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐและหน่วยงานอื่นในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในการ (๑) ดำเนินการพัฒนา บริหารจัดการและให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบการให้บริการหรือแอปพลิเคชันพื้นฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลดิจิทัล
ทั้งนี้ สพร. จะดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้ใช้บริการ ดังนี้
๑. ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ให้บริการ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้
๑.๑ ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) โดยผู้ให้บริการจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการประมวลผลข้อมูลเพื่อการติดตาม การตรวจสอบ หรือเพื่อการส่งข้อมูลตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
๑.๒ ความจำเป็นในการดำเนินงานตามภารกิจสาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐ (Public tasks) ที่ สพร. ได้รับภายใต้กฎหมาย
๑.๓ ผู้ให้บริการได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ (Consent)
๒. ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อวัตถุประสงค์ใด
๒.๑ เพื่อตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสู่ระบบเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการควบคุมการป้องกันข้อมูลให้มีความมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
๒.๒ เพื่อการปรับปรุงประสบการณ์การได้รับบริการของผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการจะทำความเข้าใจพฤติกรรมและวิธีการใช้งานของผู้ใช้บริการ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ การบำรุงรักษา และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
๒.๓ เพื่อติดต่อกับผู้ใช้บริการ โดย สพร. ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อตอบสนองต่อปัญหาที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งไว้กับ สพร. เป็นต้น
๓. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมและใช้
ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งในข้อ ๒. ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยมีรายการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่จำเป็นที่เก็บรวบรวม แหล่งข้อมูล และจุดประสงค์ในการใช้ข้อมูลดังต่อไปนี้
๔. คุกกี้
ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในระบบที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้ หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการ และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ ผู้ให้บริการ และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงระบบของผู้ให้บริการให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
๕. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ท่านมีสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
๕.๑ สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่กรณีที่ผู้ให้บริการต้องดำเนินการตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การเข้าถึงและรับสำเนาของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
๕.๒ สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
๕.๓ สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยท่านมีสิทธิขอให้ผู้ให้บริการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
๕.๔ สิทธิในการขอให้ผู้ให้บริการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
๕.๔.๑ เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ผู้ให้บริการได้ตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านเพื่อให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
๕.๔.๒ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
๕.๔.๓ เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ให้บริการได้แจ้งแก่ท่านในการเก็บรวบรวม เว้นแต่ท่านประสงค์ให้ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
๕.๔.๔ เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ผู้ให้บริการอยู่ระหว่างพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
๕.๕ สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่ผู้ให้บริการมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น ผู้ให้บริการสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของผู้ให้บริการ เป็นต้น)
๕.๖ สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ให้บริการในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษา เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือเงื่อนไขการใช้บริการให้ผู้ให้บริการจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไป
๕.๗ สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ให้บริการได้ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไป ได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้ผู้ให้บริการส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
๖. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี สพร. อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ สพร. ที่ผู้ใช้บริการใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม โดย สพร. ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
๖.๑ เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ สพร. ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
๖.๒ สพร. ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
๖.๓ เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้ใช้บริการเป็นคู่สัญญากับ สพร. หรือเป็นการทำตามคำขอของผู้ใช้บริการก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
๖.๔ เป็นการกระทำตามสัญญาของ สพร. กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ
๖.๕ เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้บริการหรือของบุคคลอื่น เมื่อผู้ใช้บริการไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
๖.๖ เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
๗. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์และตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ผู้ให้บริการจะดำเนินการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
๘. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
ผู้ให้บริการอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ให้บริการ ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่นการมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ผู้ให้บริการจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของผู้ให้บริการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ผู้ให้บริการมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของผู้ให้บริการเท่านั้น
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
๙. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความมั่นคงปลอดภัย และป้องกันมิให้ผู้อื่นที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล รวมถึงรักษาความถูกต้องของข้อมูล ท่านจะต้องไม่เปิดเผยรหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกทราบ หากท่านได้มีการแบ่งปัน หรือเปิดเผยรหัสผ่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น หรือแม้ว่าในกรณีใด ๆ ที่ท่านไม่สามารถรักษาความลับในรหัสผ่านส่วนตัว หรือไม่สามารถควบคุมการใช้งานของรหัสผ่านของท่านได้ ท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการกระทำใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้ชื่อหรือบัญชีของท่าน โดยถือว่าเป็นการกระทำโดยท่านเองและต้องรับผิดตามกฎหมายในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของบัญชี
ผู้ให้บริการมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่น และปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยผู้ให้บริการมีมาตรการรักษา ความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
นอกจากนี้ เมื่อผู้ให้บริการมีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่า เพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น ผู้ให้บริการจะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ ผู้ให้บริการเก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการขอให้ข้อมูลกับท่านว่า ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรับส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่สมบูรณ์แบบหรือไม่มีช่องโหว่ที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ประกอบกับอาจมีบุคคลภายนอกที่พยายามดักข้อมูลหรือทำการใด ๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลระหว่างการส่งข้อมูลหรือเข้ามาในระบบของท่านหรือของผู้ให้บริการอย่างไม่มีสิทธิตามกฎหมาย และบุคคลดังกล่าวอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของผู้ให้บริการ
๑๐. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ให้บริการอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอมาที่ DGA Contact Center อีเมล contact@dga.or.th
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย มีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
๑๑. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ให้บริการได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยผู้ให้บริการจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้นปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
๑๒. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ผู้ให้บริการอาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของ สพร. หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่ สพร. ดำเนินการ อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจ้ะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการ
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้และโปรดติดต่อมายังผู้ให้บริการเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
๑๓. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลหรือเกี่ยวกับนโยบายนี้หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อได้ที่
๑๓.๑ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
ฝ่ายพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลภาครัฐ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
สถานที่ติดต่อ: สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ชั้น 17 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ 108 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ 02-612-6060 email : contact@dga.or.th
๑๓.๒ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
นายมนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม
สถานที่ติดต่อ: สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ชั้น 17 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ เลขที่ 108 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ 080-045-3360 email : dga_pdpa@dga.or.th
เครดิตข่าวจาก : สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)