มท.1 ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย พร้อมเน้นย้ำถึงความร่วมมือในระหว่างสองประเทศในทุกมิติอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ นายมุน ซึง-ฮย็อน เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย โดยมี นายชัยณรงค์ วาสนะสมสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและหารือในประเด็นต่าง ๆ
โอกาสนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต้อนรับ นายมุน ซึง-ฮย็อน เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย และคณะ ที่ได้มาเยี่ยมเยือนในวันนี้ พร้อมร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย รวมถึงกล่าวชื่นชมการพัฒนาประเทศของเกาหลีใต้ นับแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลี โดยเน้นย้ำว่า ทั้งสองประเทศต่างก็เป็นประเทศจุดหมายของการท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 แล้ว คนไทยก็เริ่มที่จะกลับไปท่องเที่ยวในสาธารณรัฐเกาหลีเช่นเดิม พร้อมกันนี้ในส่วนของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เชิญชวนให้นักลงทุนจากเกาหลีใต้เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวด้วย
ด้าน เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า ก่อนช่วงสถานการณ์โควิด-19 มีชาวเกาหลีใต้มาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่าสองล้านคน ซึ่งอยู่ในอันดับ 10 ของชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย อีกทั้งยังมีมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน มากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกันนี้ได้กล่าวชื่นชมการส่งเสริมอำนาจละมุน (Soft Power) ร่วมกัน โดยปัจจุบันคนไทยชอบดูละครเกาหลีผ่านทางสื่อออนไลน์เป็นจำนวนมาก ในส่วนของการลงทุน หลังจากได้เข้ามารับตำแหน่งในประเทศไทย ตนได้เดินทางไปหลายจังหวัดของไทย เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต ชลบุรี หนองคาย นครพนม และบึงกาฬ โดยได้เห็นโอกาสและศักยภาพของการลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก และพร้อมจะส่งเสริมการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น โดยในช่วงเดือนตุลาคม 2565 นี้ สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย จะจัดให้มีการประชุมนักลงทุนเกาหลีใต้จำนวน 200 คน เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนในไทย ซึ่งในส่วนนี้ขอฝากให้คณะรัฐมนตรี ช่วยสนับสนุนนักลงทุนจากเกาหลีใต้ โดยเฉพาะกรณีโครงการใหญ่ (Mega Project) เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนให้เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ยังยินดีสนับสนุนรัฐบาลไทยในด้านความร่วมมือเกี่ยวกับการนำศิลปิน อาหาร กีฬาเทควันโดและวัฒนธรรมของเกาหลีใต้เข้ามาสนับสนุนกิจการภาครัฐในจังหวัดต่างๆ ในอนาคตอีกด้วย
ท้ายนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การสร้างบรรยากาศในการลงทุนถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยต้องสนับสนุนไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ เพื่อให้ภาคธุรกิจได้รับความเป็นธรรมและส่งเสริมการลงทุนในไทย โดยหากมีสิ่งใดที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยสามารถสนับสนุนได้ จะดำเนินการให้โดยทันที ทั้งนี้ หากต้องการเดินทางไปเยี่ยมเยือนจังหวัดใด ให้ประสานงานมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อจะได้ประสานไปยังจังหวัดต่าง ๆ ต่อไป พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงนโยบายด้านการป้องกันสถานการณ์โควิด-19 ว่า ระบบสาธารณสุขของไทยยังมีศักยภาพในการจัดการกับโควิด-19 โดยได้มีการรณรงค์ให้คนไทยเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงป้องกันตนเอง เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะต้องอยู่กับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบรรยากาศการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งในนามของกระทรวงมหาดไทยพร้อมสานต่อความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลี โดยใช้ประโยชน์จากจุดเด่นที่มีศักยภาพคล้ายคลึงกัน ขยายความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น โดยตั้งอยู่บนผลประโยชน์ร่วมกันให้เป็นรูปธรรมในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน รวมถึงการสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหลังสถานการณ์โควิด-19 ด้วย
ด้าน เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะที่ได้ให้การต้อนรับในครั้งนี้ ซึ่งตนได้รับความรู้ตลอดจนข้อแนะนำมากมาย ซึ่งจะนำมาปรับใช้ในการทำงานต่อไป พร้อมกันนี้ได้ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสนับสนุนและติดตามเป็นกำลังใจในการทำงานด้วย โดยในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่รัฐบาลไทยจะจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) นั้น ซึ่งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ทางสาธารณรัฐเกาหลีก็ยินดีให้การสนับสนุนการจัดการประชุมดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปอย่างราบรื่น
—————–
ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/57273
Credit : ข่าวประชาสัมพันธ์กรมประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร : Read More