“ฟอลคอน” เขียนหนังสือลับถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือยึดอำนาจสยาม?
ว่ากันว่ากระแสความเกลียดชัง ตลอดจนแผนการชิงพระราชสมบัติของพระเพทราชานั้น ฟอลคอนพอรู้เรื่องและพยายามหาหลักฐานยืนยันความผิดของพระเพทราชาแต่ไม่เป็นผล ฟอลคอนจึงหาแผนการดึงกำลังทหารฝรั่งเศสเพื่อไว้มาช่วยเหลือตนเองในเวลาจำเป็น
เมื่อคณะทูตฝรั่งเศสชุดแรกจะเดินทางกลับ ฟอลคอนได้มีหนังสือลับมอบให้บาทหลวงตาชาร์ดนำไปให้บาทหลวงเดอ ลาเชส (De la Chaise) พระพี่เลี้ยงพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กราบทูลให้พระองค์ทรงทราบ โดยมีความสรุปว่า
ภาพประกอบเนื้อหา – ภาพวาด ฟอลคอน หรือพระยาวิไชยเยนทร์ขุนนางชาวกรีกที่มีอำนาจมากที่สุดคนหนึ่งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ
ขอให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่งลูกผู้ดีชาวฝรั่งเศสที่มีคุณสมบัติฉลาดเฉลียว เข้าใจวิธีการปกครองทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ไม่เย่อหยิ่ง ซื่อสัตย์สุจริต และรู้จักรักษาความลับ ซึ่งฟอลคอนรับจะเป็นผู้ช่วยให้ชาวฝรั่งเศสเหล่านี้ได้รับตำแหน่งสูงๆ ในราชสำนักบ้างและในส่วนภูมิภาคบ้าง เป็นวิธีการแทรกซึมเข้าไปควบคุมระบบราชการไทยอย่างกว้างขวาง และเพื่อให้ดำเนินการเป็นไปได้เรียบร้อย ฟอลคอนขอให้รัฐบาลฝรั่งเศสส่งทหารปืนใหญ่ และเรือรบพร้อมอุปกรณ์ครบครันเข้ามาด้วย ทั้งนี้ผลประโยชน์ที่ฝรั่งเศสจะได้รับนั้นมีราชอาณาจักรสยามเป็นเดิมพัน
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงเห็นด้วยกับคำกราบทูล ทรงเชื่อในข้อมูลที่คณะทูตทูลถวายรายงาน จึงโปรดให้ส่งคณะทูตชุดที่ 2 ซึ่งมี เดอ ลาลูแบร์ (De La Loubère) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเมือง และเซเบเรต์ ดู บูลแลย์ (Cèbéret Du Boullaye) ผู้อำนวยการบริษัทอินเดียตะวันออก ทำหน้าที่เกี่ยวกับการค้า พร้อมกองทหารประมาณ 600 คน ภายใต้การบังคับบัญชาของรายพลแดฟาร์ช (Gènèral Dèsfargues)
เดอ ลาลูแบร์ ถือคำสั่งสำคัญจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ว่าให้จัดตั้งศาสนานิกายโรมันคาทอลิกในอาณาจักรสยามให้เป็นผลสำเร็จ ส่วนนายพลแดฟาร์ชถือคำสั่งให้ยึดเมืองบางกอกไว้ให้ได้ด้วยกำลังทหาร หากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเปลี่ยนพระทัยหรือมีทีท่าไม่ยอมเปลี่ยนศาสนา
ในระยะเวลาดังกล่าวจึงปรากฏว่ามีบุคคลอยู่ 3 ฝ่าย ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดียวกันแต่มีวัตถุประสงค์ต่างกันคือฝ่ายไทยต้องการกำลังทหารฝรั่งเศสมาช่วยเหลือหรือถ่วงดุลอำนาจฮอลันดาและอังกฤษ แลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ที่ฝรั่งเศสจะได้รับในอาณาจักรสยามคือ อนุญาตให้เผยแพร่คริสต์ศาสนาได้อย่างเสรี และให้อภิสิทธิ์บางอย่างทางการค้า พระองค์มีพระราชประสงค์จะสร้างสัมพันธภาพกับประเทศฝรั่งเศสแต่ในลักษณะอยู่ห่างๆ
ฝ่ายฝรั่งเศสซึ่งต้องดำเนินการตามพระบรมราโชบายและพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ให้เป็นผลสำเร็จ ขั้นแรกคือการแทรกซึมและแผ่อิทธิพลทั้งทางศาสนาและการเมือง โดยมีฟอลคอนเป็นผู้ตระเตรียมลู่ทางการรุกรานโดยสันติในครั้งนี้ และหากจำเป็นก็มีคำสั่งให้นายพลแดฟาร์ชใช้กำลังกองทัพดำเนินการ
ฝ่ายฟอลคอน มีวัตถุประสงค์สำคัญในการที่จะใช้กำลังทหารฝรั่งเศสให้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ในการปกป้องค้ำจุนและรักษาอำนาจอิทธิพลของตนในสยาม แต่ในแวดวงของผลประโยชน์แล้ว ไม่มีสิ่งใดที่จะได้มาอย่างง่ายดาย ยิ่งอุปนิสัยและความคิดเห็นของหัวหน้าแต่ละส่วนแตกต่างไม่ลงรอยกัน ก็ยิ่งเพิ่มความลำบากให้แก่ฟอลคอน
เขาจึงตกอยู่ในฐานะลำบากจากบุคคลที่แวดล้อมเขา
อ้างอิง :
หนังสือ การเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของ ท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ”. โดย ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย และปรามินทร์ เครือทอง. สำนักพิมพ์มติชน 2546
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 4 เมษายน 2561
The post “ฟอลคอน” เขียนหนังสือลับถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือยึดอำนาจสยาม? appeared first on Thailand News.
More Stories
“ระบบการศึกษา” เครื่องมือผนวก “ล้านนา” ให้กลายเป็นไทยในสมัยรัชกาลที่ 6
เด็กนักเรียนโรงเรียนประชาบาลเมืองเชียงแสน พ.ศ. 2466 (ภาพจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติ) ต้นพุทธศตวรรษที่ 25 ในสยามกำเนิดรัฐแบบใหม่ที่บริหารงานแบบรวมศูนย์ ทำให้จำเป็นต้องสลายอำนาจท้องถิ่นเพื่อดึงทรัพยากรและผู้คนมาเป็นของรัฐบาลส่วนกลาง สำหรับกรณีของล้านนา สยามเลือกใช้วิธีของเข้าอาณานิคมผสมผสานกับธรรมเนียมของรัฐจารีต หากยังขาดจิตสำนึกร่วมชาติ รัชกาลที่ 6 จึงทรงใช้ “การศึกษา” เป็นเครื่องมือในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ ผศ.ดร. เนื้ออ่อน ขรัวทองเขียว ได้ค้นคว้าและเรียบเรียงไว้...
โรงเรียนทหารบกโอกาสของ “สามัญชน” และสถานที่สร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
“โรงเรียนทหารสราญรมย์” ที่ภายหลังเปลี่ยนเป็น “โรงเรียนทหารบก” (ภาพจากหนังสือ 2475:เส้นทางคนแพ้) แม้จะมีการวางรากฐานให้กับการผลิตนายทหารตามหลักสูตรสมัยใหม่ด้วยการจัดตั้ง “โรงเรียนทหารสราญรมย์” มาตั้งแต่ พ.ศ. 2430 แต่การรับเข้าเป็น “คะเด็ด” ก็จำกัดเฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์ และบุตรนายทหารชั้นสัญญาบัตรเท่านั้น แต่เนื่องจากความจำเป็นที่ต้องขยายกิจการทหารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมืองโดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ “ร.ศ.112” ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2437 ที่เป็นการคุกคามจากฝรั่งเศส และลัทธิล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตก ทางราชการจึงต้องการนายทหารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากให้ได้ส่วนสัมพันธ์กับขนาดของกองทัพที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว...
ทหารญี่ปุ่นตบหน้าพระไทย สู่วิกฤตการณ์บ้านโป่ง 18 ธ.ค. 2485
ภาพประกอบเนื้อหา – ทหารญี่ปุ่นเรียงแถวปลดอาวุธต่อหน้านายทหารโซเวียต ช่วงกองทัพรัสเซียเข้าปลดปล่อยแมนจูเรียจากญี่ปุ่น ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพถ่ายเมื่อ ส.ค. 1945 (ภาพจาก AFP) เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2485 พระเพิ่ม สิริพิบูล (เอกสารบางรายการระบุว่าเป็นเณร) จากวัดห้วยกระบอก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม...
โอรสแห่งสวรรค์ ไยจึงมีชีวิตที่แสนสั้น? เมื่อจักพรรดิ “จีน” ดื่มยาอายุวัฒนะ แต่ยิ่งตายไว!
ภาพประกอบเนื้อหา – ภาพเขียน เง็กเซียนฮ่องเต้ (Jade Emperor) ในจินตนาการ ภาพจาก Daoist deity: Jade Emperor. Boston: Museum of Fine Arts สิทธิใช้งาน public domain...
ปริศนาเจ้าแม่วัดดุสิต ต้นราชวงศ์จักรี “เจ้า” หรือ “สามัญชน”???
พระบรมรูปพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ประดิษฐานภายในปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระราชวงศ์จักรีเป็นพระราชวงศ์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ ทั้งพระราชพงศาวดารและตำราประวัติศาสตร์ มีให้ศึกษาประวัติโดยละเอียดจำนวนมาก โดยเฉพาะพระบรมเดชานุภาพ พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ แต่หากสังเกตอย่างดีก็จะพบว่าในบรรดาประวัติพระราชวงศ์หรือพระราชประวัติพระมหากษัตริย์ เรายังขาดแคลนข้อมูลที่กล่าวถึงบางช่วงบางตอน เช่นในภาคปฐมวัยแห่งพระมหากษัตริย์บางพระองค์ เท่ากับว่าเรายังขาดความรู้เรื่อง “วัยเด็ก” ของพระมหากษัตริย์ไทย โดยเฉพาะพระองค์ก่อนรัชกาลที่ ๕ ขึ้นไป ทั้งนี้เป็นเพราะการจดพงศาวดารในยุคก่อนได้เว้นที่จะกล่าวถึงพระราชประวัติก่อนเสวยราชย์ จะด้วยธรรมเนียมหรือด้วยเหตุไม่บังควรอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ทำให้ประวัติศาสตร์ในช่วงดังกล่าวเป็นแต่เพียงภาพรางๆ...
ภาพเขียนสีที่เพิงผา “ตอแล” ภูเขายะลา ถึงภาพใน “ถ้ำศิลปะ” กับข้อมูลเมื่อแรกเริ่มค้นพบ
(ซ้าย) ภาพมุมสูงเมืองยะลา เมื่อราวปี พ.ศ. 2547 (ขวาบน-ล่าง) ภาพเขียนสีที่เพิ่งผา “ตอแล” จ.ยะลา (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม เม.ย. 2542) “ตอแล” หรือ “ตอหลัง” เป็นเพิงผาหนึ่งของภูเขายะลา อยู่ในเขตหมู่ 2 บ้านกูเบ ตําบลยะลา อําเภอเมือง จังหวัดยะลา...
ประวัติศาสตร์การนั่งจากกรุงศรีฯ-กรุงเทพฯ คนไทยนั่งกันท่าไหน
สตรีชั้นสูงนั่งบนตั่ง ขณะที่บริวารนั่งบนพื้น ถ่ายราวยุค 2410 (ANP-0002-123 ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ) “การนั่ง” เป็นหนึ่งในอริยาบถสุดเบสิกมนุษย์เราในปัจจุบันคุ้นเคยกันจนคิดว่าเป็นกิริยาอาการแสนสามัญธรรมดาแต่นั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนสมัยอยุธยาคิด เมื่อ 300 กว่าปีที่แล้ว ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ ราชทูตจากราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสเดินทางมาถึงอยุธยา ราว 3 เดือนที่พำนักอยู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยเขาได้บันทึกเรื่องราวหลายแง่มุมที่ประสบพบเจอในสยามอย่างละเอียด บันทึกเล่มนี้ได้กลายเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์อันประมินค่ามิได้กาลต่อมา...
เมืองปากสิงห์ (สิงห์ สิงหเสนา) วีรบุรุษเมืองร้อยเอ็ด ผู้ร่วมปราบฮ่อ และ ร.ศ. 112
อนุสาวรีย์สิงห์เมืองปาก (สิงห์ สิงหสนา) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปู่เมืองปาก” ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดจักรวาลภูมิพินิจ ตำบลหนองหมื่นถ่าน อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด (ภาพสิมวัดจักรวาลภูมิพินิจ จาก www.qrcode.fineart.go.th) สิงห์ สิงหเสนา มีนามสกุลคล้ายๆ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แต่ทั้งสองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดกัน “สิงห์ สิงหเสนา” ผู้นี้เป็นใคร ผู้ใช้นามปากกาว่า เสมา ไชยกำแหง จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เขียนอธิบายเรื่องนี้ไว้ใน “สิงห์เมืองปาก...
มอง “พม่า” ผ่านสายตา “สำหรุดปาน” ชาวสงขลาที่เดินทางไปแสวงบุญเมื่อร้อยปีก่อน
เจดีย์ชเวดากอง ภาพถ่ายราวปี คงศ. 1895-1915 นิราศพระธาตุเมืองย่างกุ้ง สะท้อนให้เห็นโลกทรรศน์ของสำหรุดปานที่ทับซ้อนกันสองโลก โลกด้านหนึ่งคือโลกในระดับโลกิยะ การมองโลกเชิงประจักษ์ ดังจะเห็นได้จากการที่สำหรุดปานให้ความสำคัญกับการบรรยายรายละเอียดการเดินทาง สภาพบ้านเมืองและสิ่งต่าง ๆ ที่ตนได้ประสบพบเห็นด้วยตนเอง โลกอีกด้านหนึ่งที่สำหรุดปานให้ความสำคัญสูงกว่าคือโลกในระดับโลกุตระ ดังจะเห็นได้จากความมุ่งมั่นตั้งใจในการเดินทางจาริกแสวงบุญนมัสการพระบรมธาตุยังดินแดนพม่า และยิ่งไปกว่านั้นได้แต่งหนังสือสวดนี้ไว้เพื่อให้นำไปใช้อ่านและสวดให้ญาติพี่น้องมิตรสหายที่ไม่มีโอกาสได้เดินทางมานมัสการพระธาตุด้วยตนเองได้ร่วมฟังและตั้งจิตอนุโมทนาบุญร่วมกัน พม่าในวิถีโลกย์ ดินแดนพม่าเมื่อครั้งสำหรุดปานเดินทางไปนั้นเป็นช่วงเวลาที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษและสูญสิ้นราชวงศ์พม่าแล้ว พระเจ้าธีบอกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์คองบองของพม่าถูกอังกฤษถอดจากราชบัลลังก์และนำตัวไปคุมขังไว้ที่เมืองรัตนคีรี บริติชอินเดีย สภาพการณ์ความเป็นไปของพม่าเช่นนี้ไม่ได้เกินเลยความรับรู้ของสำหรุดปาน สันนิษฐานได้ว่าการที่เขาเป็นคนสะเดา...
ตำนานคู่ปรับวงการมวย โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ vs สุวรรณ นิวาสะวัต
(ซ้าย) โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ, (ขวา) สุวรรณ นิวาสะวัต (ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมีนาคม 2564) โพล้ง เลี้ยงประเสริฐ นักมวยดังจากบ้านท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าของฉายา “ยอดมวยเตะ” เป็นนักชกที่มีชื่อเสียงรุ่นเดียวกับ สุวรรณ นิวาสะวัต นักมวยพระนครจากสำนักสวนกุหลาบ เจ้าของฉายา “เอลโมมีฤทธิ์” (เอลโมเป็นชื่อดาราพระเอกภาพยนตร์สมัยนั้น...
ปัญหาน้ำมันแพงปี 2522 ที่มาของเป็น “เพลงน้ำมันแพง”
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ (ภาพจาก ฯพณฯ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ หนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์) ที่ผ่านมาไทยต้องเผชิญกับปัญหา “น้ำมันแพง” หลายครั้ง เช่น พ.ศ. 2516 รัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร,...
“ภูเขาทอง” กองอิฐใหญ่ที่ถูกทิ้งร้าง มูลเหตุการขุด “คลองผดุงกรุงเกษม” ป้องกันพระนคร
ภูเขาทอง วัดสระเกศ (ภาพจาก หนังสือ ประชุมภาพประวัติศาสตร์ แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชดำริให้สร้าง “ภูเขาทอง” ที่วัดสระเกศ ให้สร้างเป็นพระปรางค์ขนาดใหญ่อย่างภูเขาทองที่อยุธยา แต่เนื่องด้วยชั้นดินอ่อนตัว รับน้ำหนักจำนวนมหาศาลของพระปรางค์ไม่ได้ กระทั่งทรุดลง จึงหยุดก่อสร้างค้างอยู่เพียงฐาน ถูกปล่อยให้รกร้าง กลายเป็นกองอิฐขนาดใหญ่นอกกำแพงพระนคร ตำแหน่งที่ตั้งของภูเขาทองนั้น นับเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของพระนคร เพราะตั้งอยู่ริมคลองมหานาคเชื่อมต่อกับคลองรอบกรุงและคลองหลอด (คลองหลอดวัดราชนัดดาฯ)...