ติดตามผ่านช่อง : Siammongkol Youtube Channel

กรมพลศึกษาร่วมกับ Park Run Thailand จัดวิ่งทั่วไทย 407 สนาม ชูกิจกรรมนวัตกรรมทางสังคม“พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา”

กรมพลศึกษาร่วมกับ Park Run Thailand จัดวิ่งทั่วไทย 407 สนาม ชูกิจกรรมนวัตกรรมทางสังคม“พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา”

ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานการประชุมการดำเนินการจัดกิจกรรมร่วมกับ Park Run Thailand ประจำปี 2565 แบบอิเล็กทรอนิกส์โปรแกรม Zoom Meeting เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย รศ. นพ.ยงชัย นิละนนท์  ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ นายทนงศักดิ์  ศุภทรัพย์ รองประธานสมาพันธ์ และผู้อำนวยการ Park Run Thailand  นางสาว บงกชรัตน์ โมลี ผู้อำนวยการกองนโยบายการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมพลศึกษา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เจ้าหน้าที่พลศึกษา และ RD สนาม Park Run Thailand  จำนวน 426 คน

 

ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กรมพลศึกษาร่วมกับ Park Run Thailand จัดวิ่งทั่วไทย 407 สนาม นับเป็นกิจกรรมนวัตกรรมทางสังคม“พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา” ที่ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน กิจกรรมจัดตั้งแต่มีนาคม 2564 ต่อเนื่องเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จากเริ่มต้นที่ 40-50 สนาม ปัจจุบันมีจำนวนสนามถึง 407 สนาม กระจายอยู่ใน 75 จังหวัด และ กทม. สมาชิกรวมทั้งสิ้น 27,901 คน โดยทุกคนดำเนินงานร่วมกันภายใต้กรอบแนวคิดพอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา ที่ RD หรืออาสาสมัครและผู้เข้าร่วมกิจกรรมมาพบกันที่สนามทุกเช้าวันเสาร์ ปล่อยตัวพร้อมกันเวลา 7:00 น. ใช้การสื่อสารผ่านช่องทางไลน์กลุ่มของแต่ละสนาม    ที่สำคัญมีหลายๆ อำเภอได้เปิดสนามเกือบครบทุกตำบล เช่นอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เปิดสนามได้จำนวนมากถึง 14 สนาม  เป็นตัวอย่างการนำกิจกรรม Park Run Thailand  ไปส่งเสริมประชาชนในพื้นที่ กระตุ้นให้ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น  นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขับเคลื่อนกิจกรรม CCC มีการจัดกิจกรรม 31 วัน 31 ล้านแคล และได้ขยายระยะเวลาร่วมกิจกรรมออกไปถึง 31 ธันวาคม 2565 กรมพลศึกษาเป็นหน่วยงานที่มีผู้ข้าร่วมกิจกรรมสูงสุดคือ CCC Member จำนวน 755 คน นับเป็นร้อยละ 63.1 ถ้าหากช่วยกันกระตุ้นให้ประชาชนใช้ Application CCC ด้วยก็จะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น 

 

รศ. นพ.ยงชัย นิละนนท์  ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช ได้รายงานถึงการจัดงานวิ่ง Walk Run Bike Fighting Stroke “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดินวิ่งปั่น ไร้อัมพาต ครั้งที่ 8” ที่ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง ศิริราช ดำเนินการจัดกิจกรรมร่วมกับกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ Park Run Thailand  และมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าใจเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองและการส่งเสริมการออกกำลังกาย เน้นย้ำว่า โรคหลอดเลือดสมองซึ่งจะมีผลให้เป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต การป้องกันป้องกันคือการดูแลความดันโลหิต และการออกกำลังกาย 

โดยครั้งนี้ขอความร่วมมือไปยังท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด กรมพลศึกษา ช่วยขับเคลื่อนลงไปยังเขตสุขภาพกระจายจัดกิจกรรมลงไปในชุมชน เป้าหมายเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่าแสนคนเพื่อให้มีผลไปยังประชาชนทั่วไปทุก ๆ ภูมิภาค โดยกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 จะจัดงานในช่วงระหว่างวันที่ 29 -30 ตุลาคม 2565  อย่างพร้อมเพรียงกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผู้จัดระดับจังหวัดต้องส่งรายละเอียดของสนาม คือ เส้นทางวิ่ง ระยะทาง ตำแหน่งปล่อยตัว ส่งให้กับ ทีม Park Run Thailand เพื่อเปิดสนาม แต่หากประชาชนไม่สะดวกที่จะไปวิ่งในสนามรวมของจังหวัด สามารถมาวิ่งกับสนามของ Park Run Thailand ที่จัดในวันเสาร์ได้ สมัครหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Walk Run Bike Fighting Stroke เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต | Facebook

 

อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า Park Run Thailand  นับเป็นนวัตกรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติโรคระบาดที่ทำให้งานวิ่งต่างๆ ไม่สามารถจัดได้ จึงคิดวิธีที่จะทำให้การออกกำลังกายเข้าไปยังชุมชน ใกล้บ้านที่สุด ปลอดภัย แล้วจึงขยายผลออกไปยังทั่วประเทศ

 

นายทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ รองประธานสมาพันธ์และผู้อำนวยการ Park Run Thailand  กล่าวว่า สนาม Park Run Thailand ไม่เน้นเรื่องจำนวนคน เน้นย้ำเรื่องการทำถูกกติกา และสามารถใช้สนามเป็นแหล่งกระจายความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ หลังจากการเดิน วิ่ง ปั่น แล้ว ในบางเดือนอาจจะเพิ่มความรู้เรื่องโรคเบาหวาน และอื่นๆ เข้าไปได้ ตัวอย่างเช่น ParkRunThailland สนามหนองฆ้องไชย ตำบลนาไม้ไผ่ อำเภอทุ่งสง มีดนตรีในสวน ชวนแม่มาฟังเพลงจากกองดุริยางค์ มทบ.43 และยังมีอีกหลายสนามที่จะได้พบตัวอย่างของศิลปินจิตอาสามาร่วมงานด้วย

Credit : ข่าวประชาสัมพันธ์กรมประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร : Read More