ติดตามผ่านช่อง : Siammongkol Youtube Channel

เร่งกวดขันตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ล่าสุดจับได้อีก 50 คน ในซอยกีบหมู

เร่งกวดขันตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ล่าสุดจับได้อีก 50 คน ในซอยกีบหมู

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน นำเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวและสถานประกอบการ ของกรมการจัดหางาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) รวม 85 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่บริเวณถนนเจริญพัฒนา ซอยสุเหร่าคลอง 1 (ซอยกีบหมู) เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวตรวจค้นบริเวณริมถนน ซึ่งแรงงานกำลังรอนายจ้างมารับ เป้าหมายการตรวจสอบครั้งนี้เป็นแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 กลุ่มคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่มีสถานะไม่ถูกต้อง แต่ไม่ดำเนินการตามมติที่เปิดโอกาสให้ขึ้นทะเบียน

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นเช้าวันนี้ (31 ต.ค.) เบื้องต้นตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 50 คน มีทั้งแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน แรงงานต่างด้าวที่เคยมีนายจ้างแต่ปัจจุบันไม่ได้ทำงานกับนายจ้างแล้ว แต่นายจ้างไม่ได้แจ้งออก และแรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงาน แต่นายจ้างเป็นนอมินี ซึ่งทั้งหมดถูกนำตัวไปที่ สน.คันนายาว เพื่อสอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งต้องมีนายจ้าง ไม่สามารประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นแรงงานนอกระบบได้ เพราะจะเป็นการแย่งอาชีพคนไทย ที่ผ่านมากรมการจัดหางานมีการจับตาดูซอยกีบหมูมาโดยตลอด และหลังจากนี้จะลงพื้นที่เพื่อกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ทำงานผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

ส่วนอัตราโทษนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุก และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานอีก 3 ปี ส่วนคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งตัวกลับออกไปนอกราชอาณาจักรและไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี

ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG221031101415315

Credit : ข่าวประชาสัมพันธ์กรมประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร : Read More