ติดตามผ่านช่อง : Siammongkol Youtube Channel

กรมการขนส่งทางบก ประชาสัมพันธ์ผู้สนใจทำใบขับขี่สากลสามารถนำหลักฐานเข้ารับบริการได้ โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า

กรมการขนส่งทางบก ประชาสัมพันธ์ผู้สนใจทำใบขับขี่สากลสามารถนำหลักฐานเข้ารับบริการได้ โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า

กรมการขนส่งทางบก ประชาสัมพันธ์ผู้สนใจทำใบขับขี่สากลสามารถนำหลักฐานเข้ารับบริการได้ โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า
 นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2566 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้คลี่คลายลง การดำรงชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับสู่สภาวะปกติ หลาย ๆ ประเทศได้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยว รวมถึงมีประชาชนเดินทางไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเพื่อเรียนหรือทำงาน ทำให้ประชาชนสนใจทำใบขับขี่สากลเพื่อการเช่ารถยนต์เดินทางท่องเที่ยวหรือขับรถยนต์ในต่างประเทศ ทั้งนี้ ใบขับขี่สากลที่ประเทศไทย ได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามอนุสัญญา 2 ฉบับ คือ “อนุสัญญาเจนีวา 1949” และ “อนุสัญญาเวียนนา 1968” โดยรายละเอียดของอนุสัญญา มีดังนี้  
                   – อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ. 1949 หรือ อนุสัญญาเจนีวา 1949 มีอายุ 1 ปี นำไปใช้ได้ใน 102 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เป็นต้น
                   – อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ. 1968 หรือ อนุสัญญาเวียนนา 1968 มีอายุ 3 ปี นับแต่วันออกใบขับขี่สากล หรือเท่ากับอายุของใบขับขี่ภายในประเทศที่ผู้ถือมีอยู่ นำไปใช้ได้ 86 ประเทศ เช่น บาห์เรน บราซิล เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น สำหรับประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญา ทั้งสองฉบับ เช่น สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน รวมถึงประเทศไทยสามารถใช้ใบขับขี่สากลที่ออกตามอนุสัญญาเวียนนา 1968 เพียงฉบับเดียวได้
                   รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ใบขับขี่ตามอนุสัญญาดังกล่าว มีส่วนสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยทางถนนและมาตรฐานใบขับขี่รถของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ทั้งยังเพิ่มโอกาสที่ใบขับขี่ระหว่างประเทศของไทยจะได้รับการยอมรับให้สามารถนำไปใช้ในต่างประเทศ และประเทศไทยสามารถยอมรับใบขับขี่ระหว่างประเทศที่ออกโดยประเทศที่เป็นภาคีตามอนุสัญญา รวมถึงส่งเสริมท่องเที่ยว และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่สากลสามารถเข้ารับบริการ ณ สำนักงานขนส่ง ได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (Walk in) หรือจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue และแจ้งรายชื่อประเทศที่ต้องการนำใบขับขี่สากลไปใช้ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความเกี่ยวข้องในการร่วมเป็นภาคีตามอนุสัญญา หรือสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองที่ https://apps.dlt.go.th/ltpcenter/
 
หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับใบขับขี่สากลกรณีคนไทย มีดังนี้
                   1. หนังสือเดินทางฉบับจริง ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
                   2. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
                   3. ใบขับขี่ไทย (5 ปี ตลอดชีพ ขนส่ง) ฉบับจริง ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
                   4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน
หลักฐานที่ต้องใช้ในการขอรับใบขับขี่สากลกรณีคนต่างชาติ มีดังนี้
                   1. หนังสือเดินทางและวีซ่าต้องไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว เล่นกีฬา หรือเดินทางผ่านเมือง ฉบับจริงพร้อมสำเนา
                   2. ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฉบับจริง หรือใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือใบอนุญาตทำงานอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Work Permit) ที่แสดงรายละเอียด ที่อยู่และยังไม่สิ้นอายุ หรือหลักฐานที่แสดงว่าเป็นผู้ได้รับการตรวจลงตราพิเศษ (Smart Visa) ที่รับรองโดยสถานทูต หรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศออกให้ ฉบับจริงพร้อมสำเนา
                   3. ใบขับขี่ไทย (5ปี หรือ ตลอดชีพ) ฉบับจริงพร้อมสำเนา ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
                   4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน
                   การทำใบขับขี่สากลสามารถมอบอำนาจได้ โดยเตรียมหลักฐานเพิ่มเติม ได้แก่ 1) ใบมอบอำนาจ 2) บัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ ฉบับจริงพร้อมสำเนา และ 3) หลักฐานของผู้มอบอำนาจที่จะใช้ในการขอรับใบขับขี่สากล สำเนาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง สำหรับใบขับขี่สากลตามอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ มีค่าธรรมเนียมพร้อมค่าคำขอรวม 505 บาทเท่ากัน โดยสามารถยื่นขอทำใบขับขี่สากลได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่ง ทั้งนี้ การนำไปใช้ในต่างประเทศ กรมการขนส่งทางบกแนะนำว่าให้นำใบขับขี่ของประเทศไทยแสดงควบคู่กับใบขับขี่สากลด้วย

ที่มา :

 

Credit : ข่าวประชาสัมพันธ์กรมประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร : Read More