การเปิดบัญชีของผู้ได้รับสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และการเปิดรับลงทะเบียนมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
การเปิดบัญชีของผู้ได้รับสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และการเปิดรับลงทะเบียนมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
ความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ณ วันที่ 10 มี.ค.2566 เวลา 13.00 น. มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 5,702,819 ราย
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (โครงการฯ) ณ วันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 5,702,819 ราย สำหรับจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลา 13.00 น. จำนวนทั้งสิ้น 861,038 รายโดยสามารถขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น.ของทุกวัน หรือขออุทธรณ์ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2566 ผู้ลงทะเบียนสามารถขอตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติและขออุทธรณ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัดได้ทุกวัน รวมวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 8.30 – 16.30 น. ตั้งแต่วันที่11 มีนาคม 2566
สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์สามารถไปยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ตามวันและเวลาของแต่ละหน่วยงาน ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2566 ผู้ผ่านเกณฑ์สามารถยืนยันตัวตนได้ทุกวัน รวมวันเสาร์ -อาทิตย์ โดยสาขาทั่วไปตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. และสาขาในห้างสรรพสินค้าตั้งแต่เวลา 11.00 – 16.00 น. เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารจะต้องเปิดบัญชีธนาคารและผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน โดยสามารถเปิด “บัญชีพื้นฐาน” ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากที่ไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี ทั้งนี้ ประเภทบัญชีดังกล่าวเป็นการให้บริการเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่ประสงค์จะเปิดบัญชีดังกล่าวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปิดบัญชีได้จากธนาคารพาณิชย์ทั้ง 14 แห่งทุกสาขาทั่วประเทศ
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์และยืนยันตัวตนสำเร็จซึ่งประสงค์ที่จะรับสิทธิมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (มาตรการบรรเทาฯ) จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคนโดยสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้ผ่านเกณฑ์รับบริการอยู่ ดังนี้
1. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า สามารถลงทะเบียนได้ที่ (1) สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://meagate1.mea.or.th/welfareregis เบอร์ติดต่อ 1130 (2) สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://welfareregis.pea.co.th เบอร์ติดต่อ 1129 และ (3) กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://walfareregis.sea.co.th เบอร์ติดต่อ 086 848 1284
2. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา สามารถลงทะเบียนได้ที่ (1) สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://eservicesapp.mwa.co.th/ES/MWAWelfareServlet เบอร์ติดต่อ 1125 และ (2) สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://register.pwa.co.th/welfare-register.html เบอร์ติดต่อ 1662
ทั้งนี้ หากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก
คือ “ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566” สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนมีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้าย โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566
โฆษกกระทรวงการคลังย้ำว่า ผู้ผ่านเกณฑ์สามารถเข้าร่วมมาตรการบรรเทาฯ ได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสวัสดิการของมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าน้ำประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงานโดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 09 4858 9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ
โทร. 08 5842 7102 , 08 5842 7103, 08 5842 7104 ,08 5842 7105, 08 5842 7106, 08 5842 7107 08 5842 7109 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02 109 2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)
ข้อมูล
Credit : ข่าวประชาสัมพันธ์กรมประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร : Read More