ติดตามผ่านช่อง : Siammongkol Youtube Channel

รามเกียรติ์

รามเกียรติ์ ตอนที่ 7 กำเนิดทศกัณฐ์

เมื่ออสูรเทวบุตร นนทกถูกพระนารายณ์สังหารและให้มาเกิดใหม่ ได้ลงมาจุติในครรภ์ของนางรัชดาเทวี มเหสีของท้าวลัสเตียนแห่งกรุงลงกาที่ยังไม่มีบุตร หลังจากนั้นนางรัชดาเทวีก็คลอดบุตรออกมาเป็นอสูร ยักษ์ มีสิบเศียรสิบพักตร์ ยี่สิบกร มีสิบหัวสิบหน้า ยี่สิบมือ ลัสเตียนผู้เป็นบิดา จึงตั้งชื่อให้ว่า “ทศกัณฐ์” แปลว่า ผู้มีสิบคอ หรือมักจะเรียกว่า “ทศพักตร์” หรือ สิบหน้า มี ทศเศียร” สิบหัว ทศกัณฑ์เป็นยักษ์ที่กล้าหาญ มีกำลังมาก และเป็นที่รักของลัสเตียนและนางรัชดาผู้เป็นมารดามาก

เมื่อทศกัณฐ์เจริญอายุได้สิบสี่ปี จึงได้ไปเรียนศึกษาและฝากตัว เป็นศิษย์ของฤาษีโคบุตร โดยฤาษีโคบุตรได้ถ่ายทอดวิชาให้กับทศกัณฑ์หลายวิชา เช่น วิชาการใช้ศาสตราวุธ การยิงธนู วิชาคาถาอาคมต่างๆ ทศกัณฐ์ก็เรียนรู้สรรพวิชาต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

ครั้งหนึ่งทศกัณฐ์ได้ เข้าไปเที่ยวในป่า จนไปพบอุทยานของเทพบุตรชื่อ อรชุน แต่ทศกัณฐ์ไม่ทราบว่าเป็นสวนของใคร จึงได้เข้าไปเล่นอยู่ในสวนอย่างสนุกสนาน และกินผลไม้ในสวนนั้นอย่างเอร็ดอร่อย

อรชุนเทพบุตร เป็นเทวดา ผู้มีฤทธิ์เดชทางการยิงธนูมาก เป็นที่เกรงขามของเทวดาทั้งหกชั้นฟ้า ปกติทุกๆ เจ็ดวัน ก็จะออกจากวิมาณยอดเขาจักรวาล หรือเขาพระสุเมรุ มาชมอุทยานของตน เมื่อครบกำหนดแล้ว ก็เหาะมาชมอุทยานเช่นเคย แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ประหลาดใจ เห็นต้นไม้ใบหญ้าถูกหักทำลายจนเกลื่อน เหลือบไปเห็นทศกัณฐ์ ที่อยู่ในสวนก็รู้โดยทันทีว่า นี่เป็นฝีมือยักษ์ตนนี้แน่ๆ จึงร้องถามไปด้วยความโกรธ

“เอ็งเป็นยักษ์เผ่าพงศ์วงวารใคร มาจากแห่งหนตำบลใด ทำไมไม่รู้จักเกรงกลัวกู ผู้มีฝีมือธนูล้ำเลิศที่สุด ผู้เป็นเจ้าของอุทยานที่มึงเข้ามาทำลายในวันนี้ วันนี้เห็นทีพระกาฬจะต้องมารับวิญญาณของมึงไปด้วยถูกกูสังหาญเป็นแน่”

เมื่อทศกัณฐ์ได้ฟังก็โกรธดั่งไปเผา จะตอบไป

“ตัวกูชื่อทศกัณฐ์ ลูกท้าวลัสเตียนแห่งลงกา เป็นศิษย์พระฤาษีโคบุตรญาณกล้า ว่าแต่เอ็งชื่อเสียงเรียงนามอย่างไร ถึงได้มาบังอาจกับกูถึงเพียงนี้ อันกูมาเก็บกินผลพฤกษา หารู้รู้ว่าเป็นสวนของใครไม่ กูเห็นดอกไม้เบ่งบานตระการก็นึกว่าเป็นป่าพนาลี ที่มึงมาอ้างอวดศักดา หารู้ไม่ว่ากูคือพญาราชสีห์ ตัวมึงดั่งหน่งมฤคี วันนี้กูจะเอาชีวี เมิงให้ได้”

อรชุนได้ฟังก็โมโห จึงตอบไปว่า “กูคือเทพอรชุน” แล้วก็รี่เข้าไปต่อสู้กับทสกัณฐ์ ทั้งคือรุกรับกันไปสักครู่ก็หยิบธนูออกมาต่อสู้กัน ฝ่ายอรชุนหยิบศรขึ้นพาดสายแล้วลั่นออกไป ลูกธนูกลับกลายเป็นพญานาคใหญ่ เข้าม้วนรัดตัวทศกัณฐ์ไว้แล้วพาเหาะขึ้นไปกลางอากาศ

ขณะนั้นพระฤาษีบุตรกำลังเข้าฌาณสมาธิ ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากป่า ก็เอะใจคิดถึงทศกัณฐ์ ก็หลับตาทำสมาธิเพ่งไปเห็นทศกัณฐ์ศิษย์รักกำลังได้รับอันตราย ก็เหาะออกจากอาศรมตามไปเมื่อฤาษีโคบุตรเหาะมาถึง เห็นทศกัณฐ์เพลี่ยงพล้ำแก่อรชุน ถูกศรพญานาครัดแน่นอยู่ ฤาษีจึงเข้าไปถามอรชุนว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร

อรชุนจึงเล่าพระฤาษีว่า ทศกัณฐ์ยักนี้บังอาจมาลักหักผลไม้ดอกไม้ในอุทยานของตน และยังพูดจาจอง จำต้องได้รับโทษ เมื่อฤาษีได้ฟังและด้วยเกรงว่าศิษย์รักจะได้รับอันตราย จึงบอกแก่อรชุนไปว่า การครั้งนี้ทศกัณฑ์ทำผิดจริง โทษทัณฑ์ถึงสิ้นชีวิต แต่เขาเป็นศิษย์ข้ามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ขอให้เห็นแก่ตนไว้ชีวิตยักษ์ตนนี้ด้วยเถิด เมื่ออรชุนเห็นพระฤาษี ขอไว้ก็คลายความโกรธลง ยกโทษให้ตามที่พระฤาษีขอ คลายศรนาคที่มัดตัวทศกัณฐ์ออก แล้วตนเองก็เหาะกลับสู่วิมาณบนยอดเขาจักรวาล

ส่วนพระฤาษีโคบุตร จึงนำทศกัณฐ์เหาะกลับไปยังอาศรมของตน

เมื่อพระอิศวรทราบว่าทศกัณฐ์พญายักษ์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วตามวาจาสิทธิ์ขององค์พระนารายณ์ ก็เกรงว่าเมื่อพระนารายอวตารลงไปเป็นมนุษย์ปราบยักษ์ตนนี้จะได้รับความลำบาก ด้วยมีพลังฤทธิ์เดชมากมายนัก จึงคิดอุบายให้ “ท้าวเวสสุญาณ” ไปเกิดเป็นอสูรในกรุงลงกา เมื่อพระนารายณ์อวตารจะได้ช่วยเป็นไส้ศึกคอยช่วยฝ่ายพระนารายณ์อวตาร จากนั้นก็สั่งให้ เวสสุญาณเทวบุตร ลงไปเกิดเป็นน้องทศกัณฐ์ โดยมี “แว่นแก้ววิเศษ” ที่สามารถมองเห็นล่วงรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ราวกับมีตาทิพย์ เป็นของวิเศษติดตัวไป และจะเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องไสยเวทและโหราศาสตร์ ทำนายเหตุการณ์ได้ถูกต้องแม่นยำ แล้วท้าวเวสสุญาณ ก็จุติขึ้นในครรภ์ของนางรัชดา

นางรัชดาเทวี เมื่อคลอดทศกัณฐ์ เป็นยักษ์สิบเศียรยี่สิบกรแล้ว ก็คลอดบุตรชายคนรองออกมาตั้งชื่อว่า “กุมภกรรณ” มีพละกำลังไม่แพ้พี่ชายแม้แต่น้อย ต่อมานางรัชดาก็คลอดบุตรชายออกมาตั้งชื่อว่า “พิเภก” มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดยิ่งนัก และมีความสามารถด้านโหราศาสตร์อย่างดียิ่ง แต่แตกต่างกับยักษ์พี่น้อง ตรงที่พิเภกกลับมีพละกำลังฤทธิ์เดชเพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับพี่น้องร่วมท้องนางรัชดาทุกตน ซึ่งพิเภก มีน้องที่เกิดตามมา ชื่อ “ขร” “ทูษณ์” “ตรีเศียร” และ “นางสำมนักขา” น้องสุดท้องที่เกิดผู้หญิง ซึ่งลูกทุกคนเป็นที่รักยิ่งของลัสเตียน